ทำความรู้จักธีรัชย์ อัตนวานิช รองปลัดกระทรวงการคลัง ประธานบอร์ดธนาคารออมสินคนใหม่ ผู้มากประสบการณ์การทำงานในหน่วยงานรัฐ
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ตามที่ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ กระทรวงการคลังจะเสนอเรื่องการโยกย้าย และแต่งตั้งนายธีรัชย์ อัตนวานิช ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ (บอร์ด) ธนาคารออมสิน แทน นายประภาศ คงเอียด อดีตอธิบดีกรมธนารักษ์ ที่เกษียณอายุราชการ และลาออกจากตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารออมสินไป
สำหรับนายธีรัชย์ อัตนวานิช ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง รองปลัดกระทรวงการคลัง กลุ่มภารกิจด้านทรัพย์สิน สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท Master of Business Administration (Finance), University of Alabama at Birmingham, USA ปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (การตลาด) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ปริญญาตรี บริหารธุรกิจบัณฑิต (การเงินการธนาคาร) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ด้านประสบการณ์การทำงาน นายธีรัชย์มีประสบการณ์การทำงานในหน่วยงานรัฐมากมาย ทั้งการเป็นที่ปรึกษาด้านตลาดตราสารหนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กรรมการธนาคารอาคารสงเคราะห์ กรรมการในคณะกรรมการลงทุนกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนตลาดตราสารหนี้
ที่ปรึกษาคณะกรรมการสมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย กรรมการในคณะกรรมการจัดการกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน กรรมการการยาสูบแห่งประเทศไทย และประธานกรรมการ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ซึ่งเป็นการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการครั้งล่าสุด และได้ลาออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่การทำงานในภาคเอกชน นายธีรัชย์เคยเป็นกรรมการ บริษัท พีทีที แอลเอ็นจี จำกัด (PTTLNG) ปัจจุบันยังคงเป็นกรรมการอิสระ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน)
ส่วนสาเหตุที่นายธีรัชย์ อัตนวานิช ลาออกจากการเป็นประธานบอร์ด บสย. เนื่องจากกฎเกณฑ์และระเบียบกระทรวงการคลัง ที่กำหนดให้ตัวแทนจากกระทรวงการคลัง สามารถดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการของสถาบันการเงินของรัฐได้เพียง 1 แห่งเท่านั้น เพื่อลดปัญหาการเกิดประโยชน์ทับซ้อนระหว่างหน่วยงานและกรรมการ
ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (8 พ.ย. 2565) คณะรัฐมนตรี มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงการคลัง เสนอแต่งตั้ง นายธีรัชย์ อัตนวานิช เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการธนาคารออมสิน ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 เป็นต้นไป และให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของประธานกรรมการหรือกรรมการซึ่งตนแทน