ส่องไทม์ไลน์เฟดขึ้นดอกเบี้ยถึงสิ้นปี 65 คาดพุ่งแตะ 4.50%

เรื่องที่น่าสนใจ เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

การประชุมกำหนดนโยบายการเงินเดือนพ.ย. ทำสถิติติดต่อกัน 4 ครั้ง ก่อนที่จะผ่อนคันเร่งปรับขึ้น 0.50% ในเดือน ธ.ค.65

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 92% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนัก 77.1%

หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ในเดือน มิ.ย., ก.ค. และ ก.ย.

หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ในเดือนพ.ย. ก็จะส่งผลให้เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 4 หลังจากปรับขึ้น 0.75% ทั้งในเดือนมิ.ย.,ก.ค.และก.ย.

 

ส่องไทม์ไลน์”เฟดขึ้นดอกเบี้ย”ในปี 2565

ไทม์ไลน์เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากการการประชุมอีก 2 ครั้งที่เหลือของปีนี้ รายละเอียดดังนี้

 

วันที่ 25-26 ม.ค. คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%
วันที่ 15-16 มี.ค. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.25-0.50%
วันที่ 3-4 พ.ค. ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 0.75-1.00%
วันที่ 14-15 มิ.ย. ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 1.50-1.75%
วันที่ 26-27 ก.ค. ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 2.25-2.50%
วันที่ 20-21 ก.ย. ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.00-3.25%
วันที่ 1-2 พ.ย. (คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.75-4.00%)
วันที่ 13-14 ธ.ค. (คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50%)

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดยังคงแสดงจุดยืนชัดเจนว่า เฟดจะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้มีการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

 

นายนีล แคชแครี ประธานเฟด สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า เฟดยังคงมีงานที่ต้องทำอีกมากในความพยายามที่จะสกัดการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ และเฟดไม่มีแนวโน้มที่จะชะลอการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้

“ผมยังไม่พร้อมที่จะพูดว่าเราจะผ่อนคันเร่งในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย จนกว่าจะมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานได้ชะลอตัวลงแล้ว ซึ่งขณะนี้แทบไม่มีหลักฐานแสดงว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว” นายแคชแครีกล่าว

ขณะเดียวกัน นายแคชแครีระบุว่า เขาเชื่อว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน แต่การที่เฟดจะทำการเปลี่ยนแปลงนโยบายเพียงเพื่อจะช่วยเหลือตลาดนั้น ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นโดยง่าย

ขณะที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ก็ได้แสดงความมุ่งมั่นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าภารกิจของเฟดจะประสบความสำเร็จ

 

นักลงทุนจับตาตัวเลขข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ที่จะเปิดเผยในสัปดาห์หน้า ( 10-14 ต.ค.) ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคาผู้บริโภค และยอดค้าปลีกเดือนก.ย. รวมถึงบันทึกการประชุมของเฟด (20-21 ก.ย.) ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. ของยูโรโซน รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. ของจีน อาทิ ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภค